วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555


นานเท่าไหร่แล้วที่เอา แต่ปิดหัวใจตัวเองแบบนี้ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าวันเวลามันจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ความเจ็บมันก็ยังคงเดิม  อ้อ  ไม่สิ ความเจ็บมันกลายมาเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งต่างหาก ใช่ เมื่อไหร่ที่กำแพงร้าวขึ้นมา ความเจ็บปวดมันก็ทวีความรุนแรงขึ้นจนแทบจะทนไม่ได้ พอฉันผุดความคิดขึ้นมามันก็มักจะมีน้ำตาเสมอ อะไรที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้นะ  เพราะฉันเสียใจมากจนเกินไป  ฉันเจ็บมากจน ไม่กล้ารักใครอีกเลย  กับความรักที่ผิดหวัง ถูกทรยศ หักหลัง
น้องคนนึงบอกไว้ว่า พี่ปูนะ เป็นคนที่ชอบคิดไปเอง   ฉันก็แปลกใจที่ได้ยินน้องบอกมาแบบนี้  นั้นสิ ฉันกลายเป็นคนที่คิดไปเองเสียแล้ว เพราะเมื่อก่อนตอนที่ฉันรักกับเธอ ฉันเคยคิดไปเองว่า เธอกำลังนอกใจ  ฉันไม่กล้าคิดไปจริงๆหรอกนะ ฉันเฝ้าถามเธอตรงๆ ว่าเธอกำลังคบกับคนอื่นหรือเปล่า  เธอก็ตอบกับฉันมาว่า ฉันพูดมาก น่ารำคาญจริงๆ เธอบอกว่าไม่ เพราะ คนที่ฉันสงสัยว่าเป็นคนใหม่ของเธอมีแฟนอยู่แล้วแต่เธอไม่พูดถึงฉันเลยนะ เธอพูดแค่นี้แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ  ฉันฟังเธอแล้วก็เงียบ  ได้แต่คิดในใจอีกครั้ง ว่า  ถ้าเขาคนนั้นไม่มีแฟน แสดงว่าเธอคงจะนอกใจฉันสินะ  แล้วฉันก็ไปนั่งเสียใจกับความคิดของตัวเอง หลังจากที่เราเลิกกัน  ฉันมาได้ข่าวที่หลังว่าเธอคบกันจริงๆ มีอะไรกัน  ไปเที่ยวด้วยกัน อะไรๆมากมาย ตอนนี้แหล่ะฉันถึงเชื่อในความคิดตัวเอง เพราะมันเป็นความจริง ก็เลยกลายเป็นคนที่คิดไปเองจนถึงทุกวันนี้
ความเจ็บที่ถึงจุดสูงสุด
ฉันเคยปฎิเสธที่เชื่อว่าเธอจะนอกใจฉัน เพราะฉันกลัวว่ามันจะเป็นความจริง เพราะแน่ใจในความรักครั้งนี้มากและมั่นใจว่ามันคือรักครั้งสุดท้ายของฉัน แต่ฉันลืมไปว่า รักครั้งสุดท้ายของฉันคนเดียวมันไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของเธอ  ครั้งแรกที่ฉันเริ่มจะเชื่อและแปลกใจในความคิดที่มันถูกต้องของตัวเอง วันนั้นถ้าฉันไม่ตัดสินใจออกจากห้องกลางดึก  มุ่งหน้าไปห้องของเธอ ฉันคงจะเสียใจที่ฉันไม่เชื่อในความคิดตัวเอง   เธอจะจำได้ไหม  คืนนั้นมันจะอยู่ในความทรงจำฉันตลอดไป  มันคืองานวันเกิดของคนเลวๆที่ชื่อผึ้ง ซึ่งปัจจุบันนี้คงจะเป็นแฟนของเธอแล้ว  เขาชวนหลายๆคนไปกินเลี้ยง แน่นอนว่าไม่มีชื่อฉันที่เขาจะชวน ในฐานะเพื่อนร่วมงาน  คืนนั้นเขาคงจะไปชวนเธอถึงในห้องนอน   เพราะเขาคงจะไปรับเธอเลย เธอไม่มีรถ ฉันได้แต่สงสัยว่าทำไมเธอไม่โทรมาหาฉันและปิดเครื่องอีกต่างหาก เลยลองโทรไปเบอร์เขาคนนี้ ที่ฉันคิดคือ กลัวว่าตอนนี้เขาจะอยู่กับเธอเพียงสองคน  แน่นอนว่าฉันเคยไปห้องเธอ  บรรยากาศในห้องเธอแม้ในโทรศัพท์ฉันก็รู้ดีว่ามันเป็นยังไง นี่แหล่ะคือเซ็นซ์ของฉัน  ไม่คุยอะไรมาก เพราะฉัน จะพิสูจน์ว่าเขาอยู่ในห้องของเธอจริงๆหรือเปล่า  นั่งวินแป๊บเดียวแค่ห้องของเธอใกล้จะตาย   ไปถึงพอฉันเห็นรถเวฟเก่าๆสีแดง  ก็นึกถูกต้องแล้ว! จะให้ฉันคิดอะไรต่อได้  ฉันยืนอยู่ใกล้รถของเขาอย่างเนิ่นนานอย่างเจ็บใจ  เพราะที่คุยกับมันเมื่อกี้มันบอกว่ามันอยู่ห้องมันเอง!  เสียใจนะฉันฉลาดพอที่จะพิสูจน์ไปเลย โกหกหน้าด้านๆ ฉันเริ่มจะเชื่อว่าไม่ได้คิดไปเอง  ฉันเดินไปเคาะประตูหน้าห้องเธอ    จากเสียงที่คุยกันเริ่มเงียบลง  มีใครสักคนมาล็อคลูกบิด เสียง แก๊ก!    เหอะ! คงกลัวอะไรบางอย่างสินะ  ฉันก็เคาะ ดัง ปัง ปัง  สุดท้ายเธอก็ยอมเปิด
ทุกวันนี้ฉันมาคิดๆดูนะ  มันไม่น่าจะเป็นฉันเลยเนอะ ที่ไปหาแล้วก็โมโห ใส่พวกเธอขนาดนั้น  มันน่าจะเป็นผัวเธอมากกว่าที่ควรจะเจอภาพบาดใจอย่างนั้น ไม่น่าจะเป็นฉันเลยที่ได้แต่เจ็บปวดมาถึงทุกวันนี้  เธอโกหกฉัน  ว่าเขามาเอาของขวัญที่ห้อง  ของขวัญวันเกิดอะไร มาเอาที่ห้องตอนดึกๆ …….
                        ความไม่แน่ใจบางครั้งเราจะควรเชื่อมัน   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น